ผมเองก็เลี้ยงกระรอกแบบปล่อยไว้ในห้องเหมือนกันครับ ไม่เคยจับใส่กรงเลย เลี้ยงมาจนปีกว่าแล้ว
แล้วอีกไม่กี่เดือนผมก็ต้องย้ายไปอยู่หอ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ผมคงต้องตัดสินใจจะทำยังไงกับเจ้าตัวเล็กของผมดี...
แน่นอนว่าที่หอเค้าไม่ให้นำสัตว์เลี้ยงเข้า แต่ยังไงผมก็จะเอาเข้าอยู่ดีนั่นแหละ
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ในเมื่อรักน้องเค้าและตัดสินใจรับผิดชอบไปแล้ว ผมก็กะว่าจะพาน้องเค้าไปอยู่หอด้วย ซึ่งเจ้ากระรอกของผมอาจจะไม่ชินเหมือนอยู่บ้าน แต่ผมคิดว่าการเอาใจใส่ของเรามากมาย ที่น้องเค้าน่าจะปรับตัวได้ ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ

เพราะผมเลี้ยงเค้ามาตอนน้องเค้าอายุ 2 เดือนกว่าๆ แรกๆ น้องเค้ามีอาการตื่นกลัวคน แต่หลังจากนั้นน้องเค้าก็เริ่มปรับ ชินกับผมจนได้ เพราะผมเล่นพกน้องเค้าติดตัวตลอด จะไปไหน เราแทบไม่เคยห่างกันเลย อย่างเช่นตอนที่ผมซื้อน้องเค้ามาแรกๆ หลังจากนั้นอาทิตย์กว่าๆ โรงเรียนผมมีเข้าค่าย 3 วัน 2 คืน ตอนนั้นผมก็ลังเลอยู่ว่าจะพาไปด้วยดีมั้ย แล้วสุดท้ายก็ตัดสินใจพาไปด้วย ซึ่งผมก็พกกล้วยกับนมดัชมิลล์ติดตัวไปด้วย แต่สุดท้ายไม่ถึง1คืนอ่ะ กล้วยก็เน่าซะแล้ว แถมอาหารที่ไปเข้าค่ายแทบไม่มีผลไม้เลยด้วยซ้ำ กินแต่นม และด้วยความโชดดีที่น้องเค้ากระเพาะแข็งแรง แต่สุดท้ายผมก็เดินเข้าไปขอผลไม้จากอาจารย์ที่ห้องเลย ไอ้โดนด่าก็โดนอยู่ แต่สุดท้ายอาจารย์ก็แบ่งแอปเปิ้ลลมาให้ชิ้นนึง(ซึ้งใจหลาย)

และก็โชดดีมากมายที่มื้อเย็นมีผลไม้คือเงาะเลยเก็บมาได้หลายวันอยู่ พอผ่านวันที่3 ได้เวลากลับบ้าน แต่ก็ยังมีแวะดูหุ่นขี้ผึ้งและไปที่วัด.. อะไรไม่รู้ จำชื่อไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ได้กลับบ้านสักที

สรุปเลยดีกว่า ว่าตั้งแต่ได้ซื้อน้องเค้ามา ขาน้องเค้าแทบไม่แตะถึงพื้นเลย ผมจับหิ้วไปหิ้วมาตลอด แล้วน้องเค้าก็ชอบนอนบนมือผมด้วย จนน้องเค้าอายุประมาณ 3 เดือนกว่าๆ ก็เริ่มวนเวียนอยู่แถวๆโต๊ะคอม พอ 4เดือนกว่าๆ น้องเค้าก็เริ่มยึดเตียง หลังจากนั้นน้องเค้าก็เริ่มเดินเข้าเดินออกจากห้องอย่างอิสระ..

ถึงแม้ว่าน้องเค้าจะกัดทำลายเฟอร์นิเจอร์ไปเยอะมากมายก็เหอะ แถมยังโดนแม่ด่าหูชาอีก เพราะบ้านผมส่วนใหญ่ทำมาจากไม้ทั้งนั้นเลย ตู้เสื้อผ้าก็แหว่งๆT^T หน้าต่างก็โดนแทะ โต๊ะเขียนหนังสือ โต๊ะคอม ลิ้นชัก หรือหนังสือเรียนก็ไม่เว้น ขนาดเครื่องปริ้นตั้งของมันดีๆ น้องเค้ายังแทะเล่นซะหมึกกระจาย หลักฐานคาปาก คามือเลย จากเดิมขนมันเป็นสีน้ำตาล จู่ๆ เป็นสีรุ้งซะงั้น แต่ในเมื่อตัดสินใจจะดูแลเจ้าตัวแสบนี่ไปแล้ว ก็จะดูแลให้เค้ามีความสุขที่สุด

อ่านๆ มาก็ยังไม่เห็นใครจะต่อว่าร้ายแรงเลยนิค่ะ มีแต่แนะนำ อ่านไปแล้วแต่คนจะแปลว่าไปทางดีไม่ดี

แต่จะดีถ้าเปิดใจรับฟัง เพราะบางคนอธิบายไม่เก่งได้แบบนี้ก็มองว่าร้ายทั้งเจตนาดีอธิบายให้ทุกอย่าง

แต่อยากให้มองหลักความเป็นจริงมากกว่า โลกนี้มันไม่ได้ดีเสมอไป ถ้าชอบสัตวในธรรมชาติ

ก็ไม่ควรคิดจะหามาเลี้ยง แต่ถ้าเลี้ยงแล้วจนเค้าเติบใหญ่อยากให้คิดเผื่อไว้บ้าง ว่าเลี้ยงมานั้นเค้าอยู่ได้ไหม

กับอีกโลกนึงที่เค้าไม่เคยได้รู้จักเลยมาตั้งปีนึง ส่วนตัวถ้าชอบสัตว์เค้าอยู่ธรรมชาติก็ไม่ไปยุ่งย่ามหรอกค่ะ

คอยแต่เก็บภาพเค้ามีความสุขมากกว่า ถ้าชอบให้เค้าอิสระก็เลี้ยงที่บ้านแบบปล่อยไม่ต้องขังเลยก็มีเยอะ

แต่แนะนำว่าถ้าไม่เลี้ยงแล้วจริงๆ ควรยกให้คนอื่นดีกว่า

ปล.อย่าลืมว่ากระรอกนิสัยไม่เหมือนกันบางตัวปล่อยไปอยู่รอดมีความสุขแต่บางตัวไม่ใช่อย่างนั้น ชีวิตไม่มีใครเหมือนใคร ชะตากรรมไม่มีใครเหมือนใคร 

ถึง คนน่ารัก

ขวานผ่าซาก

อ่านไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียก

ทุกคนที่เค้าให้คำแนะนำเค้ารักและหวังดีกับกระรอกทั้งนั้น

คนที่เลี้ยงแบบปล่อยก็มีซะส่วนใหญ่ เป็นอะไรมากป่าวคะ หรือว่าเคยปล่อย แล้วร้อนตัวล่ะ

จากคุณ"คนเดิม"
คุณลองอ่านดูดีๆดีกว่ามั้ยครับ ว่าเค้าพูดให้หมดกำลังใจจริงหรือเปล่า อย่าทึกทักไปเองสิ ใครๆเค้าก็อยากจะแนะนำให้กำลังใจกันทั้งนั้น

เพราะเห็นว่าเลี้ยงมาตั้งนานแล้ว หากวันใด ถ้าเจ้าของกระทู้ปล่อยน้องเค้าไปจริงๆ วันใดวันหนึ่งถ้าเค้าเกิดคิดถึงหรือเป็นห่วงขึ้นมา(อยู่กันมานานก็ต้องรู้สึกบ้าง) เค้าก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นจริงๆหรอกครับ

ขนาดผมเอง ผมยังกลัวเลย คุณอย่าพึ่งแปลความหวังดีของคนอื่นเป็นแง่ร้ายสิครับ

ถ้าเค้าแปลเป็นทางอย่างนั้นจริงๆ เค้าคงไม่พูดอ้อมๆกันอย่างนี้หรอก เค้าด่ากันตรงๆไม่ดีกว่าเหรอ

ทุกคนในบอร์ดนี้ก็หวังดีกันทั้งนั้น ไม่มีใครอยากให้ทั้งเจ้าของกระรอกและน้องกระรอกเค้าต้องลำบากกันหรอกครับ

ผมเองก็เป็นคนแสดงความรู้สึกไม่เก่ง แต่ผมไม่มีคิดในแง่ร้ายๆกับคุณแล้วกับใครหรอกครับ เพราะผมเองก็ไม่อยากโดนใครว่าในแง่ร้ายเหมือนกัน

เจ้าของกระทู้ไม่ต้องไปสนใจหรอก สังคมไทยมันก็เป็นยังงี้แหละ
ตัวเองดีหมด คนที่ไม่เห็นด้วย คือ คนไม่ดี พวกโอเวอร์ แอตติ้ง
สร้างภาพให้ดูดี รักอย่างโน้น อย่างนี้ อ้างมาซะเวอร์เชียว
กับ พ่อ แม่ ตัวเอง เคยซื้อผลไม้ไปให้เขากินบ้างไหม ? 
สัตว์ป่า ยังไงๆ มันก็ คือ สัตว์ป่า และมันควรอยู่ในป่า
มันสามารถปรับตัวได้และอยู่อย่างมีความสุข ยืนยัน

คุนคนเดิมคะ พูดจาไม่เข้าหูใครหลายคนนี่ หมายถึงคุนคนเดียวแต่แค่เปลี่ยนชื่อ หรือป่าวคะ

ถ้าเห็นด้วยที่ จขกท จะ ทิ้งกระรอก ก็บอกไปสิ ว่าเห็นด้วย จะไปว่าคนอื่นทำไม ประสาทป่าว แล้วถ้าไม่ได้เห็นด้วย

ที่ จขกท จะเอากระรอกไปปล่อย ละคนอื่นที่เค้ามาแนะนำไม่ให้ทิ้งเค้าพูดผิดตรงไหน ยังไงก็จะหาเรื่องด่าคนอื่นไป

เรื่อยๆใช่ป่ะ ถ้าใช่ก็แสดงความกล้า ใช้ username จริงเร้ย อย่ามาแอบๆ ลำคาญ

ทบทวนตัวเองก่อน ว่าต้องการอะไรกันแน่ อ่านภาษาไทยให้มันเคลียร์ๆ มองโลกในแง่ดีซะบ้าง เด๋วจะเป็นบ้า

ขอโทดถ้าตรงไป อ่านแล้วมันหมันใส้

คุณ "กระรอกน้อย"
ใช่คะ เค้าเปน "สัตว์ป่า" งั้นถามคำนึง คุณปล่อยเค้าที่ไหนคะ "ป่า"หรือป่าวหล่ะคะ ที่สวนสาธารณะของคุณหน่ะ เวลาไปเยี่ยมได้นับจำนวนน้องหรือป่าวคะว่าเค้าอยู่กันครบรึป่าว ไม่สายมั้ย ผอมเกินไปมั้ย แข็งแรงดีรึป่าว เพราะในเมื่อคุณบอกเองว่า "ป่า " คือบ้านของเขา แล้วคุณปล่อยที่ไหน "สวนสาธารณะ" - -*
ที่ๆมีแต่มนุษย์เต็มไปหมดเนี่ยนะคะ ของกินก้หายากกว่าในป่า หายากกว่าตอนมีคนเลี้ยง
ที่น้องเค้าไม่สนใจคุณหน่ะ เพราะเค้าตื่นคนรึป่าว เค้าตกใจรึป่าว ถ้าคนเลี้ยงมานานจะรุ้ว่าน้องเมื่อไม่เหนเจ้าของเค้าจะร้องเรียกจนกว่าจะเจอ คุณอยุ่ดูเค้าถึงตอนกลางคืนรึป่าวว่าน้องเค้าร้องเรียกขนาดไหน กระรอกของคุณอาจจะไม่สนใจคุณก้ได้
แต่อีกหลายๆ ตัว ดิฉัน พนันได้เรยค่ะ ว่าเค้าต้องมี "ความผูกพันธ์" "ความรัก" และติดเจ้าของพอสมควรค่ะ น้องของดิฉัน เลี้ยงแบบปล่อยอยู่ในหอเหมือนกัน พอไม่เห็นเค้าก้จะร้องเรียกจนกว่าจะเจอเรา เวลาเดินไปไหนก้จะเดินตาม เราเข้าห้องนำก้ร้องเรียก ลองคิดดูนะคะ
ถ้าคุณเอาเค้าไปปล่อยใน "ป่า" ยังจะดีกว่านี้เรยค่ะ พูดนั่นพูดนี่ ตัวเองปล่อยใน "สวนสาธารณะ" มีคนมาดักจับไปหรือป่าวก้ไม่รุ้ ไปกินอะไรไม่ดีท้องเสียตายหรือป่าวก้ไม่รุ้ ใครดักจับไปทำอะไรมั่ง ถ้าถามจริงๆ คุณก้ไม่รู้ แล้วลิ้งของคุณดิฉันคลิกเข้าไปก้ไม่พบบอะไรเรย
ถ้ารักเค้าจริงๆสนับสนุนการซื้อขายดดยซื้อเค้ามาเลี้ยงทำไม ทำไมไม่ขอซื้อต่อจากผู้ที่ไม่ต้องการแล้วดดยตรงหล่ะคะ แล้วทำไมไม่ปล่อยเค้าใน "ป่า"จริงๆหล่ะคะ!?!?!? ถ้าแยกไม่ออกบอกให้ไหมคะว่าสวนสาธารณะมันต่างกับป่ายังไง
ไม่ได้คัดค้านการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ(ของแท้ที่เค้าควรอยู่) แค่เป็นห่วง ลองคิดดูนะคะ ถ้าคุณมีลูก แล้วต้องย้ายบ้าน ลูกต้องขีดเขียน ผนังพังแน่ๆ หวังว่าคุณคงจะส่งลูกคุณที่ดูแลมาเกือบปีให้กับสถานเลี้ยงเดกกำพร้านะคะ จะได้เป็นอิสระ

ปล.แล้วว่าคนอื่นไอ้ลิ้งนกเขาของคุณมันยิ่งกว่าน้องกระรอกอีกนะคะ เพราะยังไงคุณก้ต้องเลี้ยงนกเขาใน "กรง" ไม่ใช่เหรอคะ หรือคุณจะเถียง ว่าเลียงบนท้องฟ้า ตามธรรมชาติ อย่างน้อยเจ้าของน้องกระรอกส่วนใหญ่เขาก็เลี้ยงน้องแบบปล่อยหรือถ้าขังกรงจริงๆยังไงก้ได้ออกกำลังกายมั่ง อย่างน้อยเจ้าของกระรอกเค้ารักของเค้าจริงๆ ไม่ได้เลี้ยงไว้ "แข่งขัน" ค่ะ!!!

ถึงคุณ Nan Numeber ก็ต้องวกกลับไปที่เดิมคือ การจะเลี้ยงให้เค้าไม่คุ้นเคยกับเรามันมีวิธีถ้าคุณเคยเลี้ยงประจำก็ต้องทราบว่ากระรอก ถ้าเราไม่ให้ความสนใจมาก และเริ่มให้เค้าคุ้นชินในการดำรงชีวิตเองเค้าจะสามารถอยู่ได้ ปรับสภาพได้โยธรรมชาติ อย่างที่บอกไปแล้วเค้าสามารถสร้างรังเองได้ และอยู่ได้ถ้าเค้าคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมแล้วนั้น

คุณสัตว์ไม่สามารถตอบได้หรอกแต่เชื่อว่าสัตว์ทุกตัว ต้องการมีอิสระทั้งนั้น ถามคุณกลับว่าสัตว์ที่จะปล่อยสู่ธรรมชาติคุณสามารถถามสัตว์เหล่านั้นได้ด้วยหรือ??? คำตอบก็คือสัตว์ตอบไม่ได้แต่พฤติกรรมเค้าตอบเองได้ ที่คุณกล่าวมาว่ากระรรอกแต่หล่ะตัวพฤติกรรมไม่เหมือนกัน แน่นอนก็ต้องย้อนไปที่เจ้าของกระรรอกหรือตัวบุคคลว่าในการเลี้ยงของแต่ล่ะคนแตกต่างกัหรือไม่ที่ทำให้กระรรอกมีนิสัยต่างกัน เหมือนคนเราเลี้ยงดูต่างกันก็นิสัยต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่เหมือนกระรรอกคือการที่ไม่ถูกยัดเหยียดความเป็นมนุษย์ลงไปในสัตว์ ที่ไม่ใช่คน
คุณไม่ต้องกังวลตรงนั้นหรอกว่าเค้าจะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ต้องให้คุณกลับขึ้นไปอ่านข้างบนในกระจ่างก่อนว่า สวนสาธารณะระบบเชิงนิเวศเป็นยังไง ร่มรื่นมีต้นไม้สูง มีต้นกล้อย แน่นอน ต้นไม้ก็เป็น กลุ่มผู้รักษ์ป่าเอามาปลูกให้สัตว์อยู่กัน แล้วกระรรอกเป็นสัตว์ปราดเปรียวเค้าสามารถปรับตัวได้เร็วและเก่ง นี่ไงการที่เราห่วงมากเกินไปกระรอกของเราจะทำอะไรไม่ได้ คุณต้องเริ่มเลี้ยง ให้เค้าพึ่งพาตัวเองให้ได้โดยไม่ใช่ว่าเราห่วงมากมายแต่ให้ดูห่างๆเค้าจะเริ่มรู้ว่าการดำรงชีวิตด้วยตัวเองจะเริ่มต้นขึ้นมาเอง โดยสัญชาติญาน การที่กระรอกวนเวียนที่เดิมเพราะมนุษย์ให้ความสนิทสนมเอาใจมากเกินไป กระรรอกมีนิสัยเป็นสัตว์ป่า เมื่อคุณไม่จับไม่อุ้มเค้า กลิ่นคุณจะหายไปจากตัวเค้า ความเป็นสัตว์เค้าจะกลับคืนมาคือเริ่มไม่สนใจคุณ เพราะเค้าเป็นสัตว์ป่าที่โดนคนพยายามมาทำให้เป็นสัตว์เลี้ยง
เหมือนที่บอกไปแล้วว่าถ้าจะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติคุณต้องศึกษาสัตว์แต่ล่ะชนิดให้ดี แต่กระรรอกโดยพื้นฐานจะเหมือนนกเขา นกพิราบที่สามารถปรับตัวเองเข้าสู่กับสังคมคนเมืองได้รวดเร็ว 
แต่ที่ปล่อยไม่ต้องหวง อาหารเพียบ เค้าจะมีพฤติกรรม ธรรมชาติความเป็นสัตว์ป่าออกมาเองโดยอตโนมัติ บอกแล้วไงว่าไปต้อง สปอย สัตว์มาก นี่ไงคือเหตุผลที่ทำไม ปล่อยไปแล้วสัตว์กลับ เรามีวิธีเลี้ยงเพื่อนำเค้ากลับสู่ธรรมชาติ มีหลากหลายวิธีในการฝึกการดำรงชีพได้ด้วยตัวเอง
 สัตว์เค้าสามารถที่จะปรับสภาพได้อย่างเสือก็เช่นกันมนุษย์เลี้ยงเมื่อจะกลับสู่ป่า ผู้เชี่ยวชาญก็จะพยายามให้เค้าล่าสัตว์ให้ได้เองโดยตัวเค้าเอง เพื่อการดำรงชีพ สัตว์ยังไงเค้าก็อยู่ได้อยู่ที่การฝึกฝน สัตว์ป่าที่ถูกเก็บมาเลี้ยงั้งแต่เล็ก ชะนี ลิง นก เสือ ล้วนกลับสู่ป่าได้หมดมีวิธีการให้เค้าดำรงชีพเองได้หมด ถ้าอยู่ไม่ได้ไม่มีกระรอกสวนสาธารณะเต็มบ้านเต็มเมืองหรอก ถึงบอกแล้วไงว่า อย่าสปอยมันมาก เค้าต้องการอิสระอยู่แล้ว แล้วไม่มีใครถามกลับเหรอว่า กระรอกชอบไหม ในการปรับจริตให้เหมือนมนุษย์อยู่ในบ้านมนุษย์ทั้งๆที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง ปืนตามตัวมนุษย์แทนที่จะปืนต้นไม้
ให้เอามนุษย์เข้าไปเลี้ยงในป่าดีขนาดไหน มนุษย์ก็ต้องอยากออกมามาจากป่าฉันใดก็ฉันนั้น สัตว์ป่าเช่นเดียวกัน เค้าอยู่เพราะฝืนในสภาพที่เราปรับแต่งให้เค้าโดยสิ่งที่เค้าอยู่ไม่ใช่สภาพแท้จริงของเค้า หากสัตว์พวกนี้ไม่มีสัญชาตญานความเป็นสัตว์ป่าคงไม่มีทั่วไปตามสวนสาธารณะเชิงนิเวิศประเทศไทยหรอกเพราะสัตว์นี้ก็ล้วนมาจากการที่มนุษย์นำมาปล่อยแล้วปรับตัวได้เองทั้งนั้น
และการซื้อขายกระรรอกก็ไม่ได้ระบุกล่าวร้ายใคร แต่ก็อยากเตือนสติบุคคลที่เห็นแก่เงินเช่นตัดฟันสัตว์แล้วนำออกมาขาย ไม่ได้เจาะจง หรือพาดพิง ยอมรับเถอะว่าเค้าคือสัตว์อย่าได้จงใจให้ในสิ่งที่ไม่ใช่เค้าเลย
 
 

คงทำไม่ได้หรอกค่ะเลี้ยงโดยไม่รัก ไม่ผูกพัน
บางคนเลี้ยงรักยิ่งกว่าลูกตัวเอง
บางคนเลี้ยงเหมือนลูก หลักการบางครั้งมันใช้กับความเป็นจริงไม่ได้

ขอถามกลับอีกนิดนึงนะคะ
มนุษย์เคยอยู๋ในป่าก็จริง และห่างจากป่ามานานจนกลายเป็นไม่สามารถอยู๋ป่าได้
ทั้งที่ในใจนั้นโหยหาพูดว่าอยากจะกลับไป
แต่เอาเข้าจริงๆมนุษย์ที่ถูกแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีต่างๆ
ก็สามารถอยู๋กับธรรมชาติได้ชั่วครู่คราว
คิดง่ายๆแค่ไฟดับครึ่งวันก็กระวนกระจาย
สรุปส่วนใหญ่ยังไม่เลือกที่จะอยู๋ในป่าเดิมๆ
ผิดอะไรกับกระรอกที่ถูกเลี้ยงมาเป็นปีๆ
เค้าย่อมมีความเคยชินกับการอยู่แบบมนุษย์

อย่าว่าแต่กระรอกเลย ขนาดนกนางแอ่นที่เคยอยู่ในธรรมชาติ
เค้ายังเลือกที่จะมาสร้างรังในตึกแถวที่มนุษย์สร้าง
เพราะมันปลอดภัยจากภัยธรรมชาติมากกว่า

จงอย่าเลือกให้เค้า ให้เค้าเลือกชีวิตของเค้าเองว่าจะไปทางไหน
อย่างที่คุณพูดถูกหนึ่งอย่างคือ ศึกษาก่อนจะปล่อย
แต่การที่คุณสนับสนุนให้ปล่อยรู้บ้างไหมจะมีผลเสียอะไรบ้าง
คิดกว้างๆ อย่าคิดแต่ว่าฉันอยากอนุรักษ์ ฉันก็มาอนุรักษ์
แต่ไม่คิดถึงหลักเป็นจริง พอพูดจบแล้วจะไม่มีผลตามมาภายหลัง

ที่หลายๆคนในบอร์ดนี้ไม่อยากให้เห็นการปล่อย
เพระไม่ต้องการให้คนที่ซื้อมา หรือรับมา หรือเก็บมา
เลี้ยงอย่างไม่มีความรับผิดชอบ
ถ้าคุณยิ่งสนับสนุนการปล่อยเท่าไร
นั่นคือคุณสนับสนุนให้คนซื้อมาแล้วพอไม่อยากเลี้ยงก็ปล่อยไป
นี่คือผลลัพธ์ที่หลายๆคนไม่อยากให้เป็น
มันคนละแง่มุมกับการอนุรักษ์อะไรที่คุณกล่าวมาทั้งหมดทั้งปวง

สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตปรับตัวได้ ไม่มีใครหรือชีวิตไหนยอมอดตาย
ยังไงก็ต้องดิ้นรนให้ตัวเองรอด แต่อย่าลืมกระรอกที่ถูกเลี้ยง
ขาดสัญชาติญาณความเป็นสัตว์ป่าไปมาก
จะมีสักกี่คนที่จะทำแบบที่คุณบอก คือศึกษาๆๆๆ แล้วค่อยปล่อย
ส่วนใหญ่นึกจะปล่อยก็ปล่อยก้คิดแบบคุณนั่นแหละเดี๋ยวก็หากินเองได้

ทุกสิ่งมันมีเหตุผลในตัวเอง ทุกคนต่างคิดว่าตัวเองถูกเสมอ
โดยที่ไม่ยอมใส่ใจคนอื่น
มันจะดีกว่ามั้ยที่เอาใจเขามาใส่ใจเรา
มากกว่าตัดสินให้เค้าทำตามแบบเรา
เราไม่ได้ยัดเยียดความเป็นมนุษย์ให้เค้า
แต่เค้าเลือกที่จะรับ และซึมซับมันลงไปเอง
เพราะสำหรับสัตว์ป่าแล้ว หากไม่ไว้ใจไม่มีทางยอมอยู่กับเราแน่ๆ
ยิ่งกระรอกถ้าไม่อยากอยู่ต่อให้เอาโซ่ เอากรงหนาแค่ไหน
 เค้าก็ไปไม่อยู่กับเรา ยิ่งเป็นกระรอกป่าที่ถูกดักมาใส่ในกรงแคบๆ
เค้ายอมวิ่งชนกรงจนตัวตายมากกว่าจะอยู่ในที่จำกัด
คุณลองมองกว้างๆและเปิดใจสักนิด

กระรอกบางตัวเป็นกระรอกป่าแท้ๆ ยังยอมเข้ามาหาเราเอง
เพื่อให้เรารับเค้าเป็นหนึ่งในสมาชิก ยอมทิ้งต้นไม้
เข้ามาอยู่ในกรงเองโดยที่ไม่ได้ดักจับหรืออะไรทั้งนั้น
เพียงแค่ขอที่พักพิง ขออาหาร น้ำ และที่ๆปลอดภัย
แล้วกรณีนี้คุณยังจะเรียกว่ายัดเยียดความเป็นมนุษย์ให้เค้ารึเปล่า
ในเมื่อเค้ามีสิทธิ์เลือกทางเดินชีวิตของเค้าเอง

ก็ถึงคุณ NAN คือว่าถ้าสรุปมาสัตว์ป่าที่ถูกจับมาหรือถูกช่วยชีวิตมาไว้ในศูนย์รับเลี้ยงสัตว์ป่าก็คงไม่สามารถกลับสู่ป่าได้อย่างนั้นหรือ??? เพราะเค้าได้ถูกเลี้ยงแล้วและเป็นสัตว์เลี้ยงแล้วใช่หรือไม่นั้นมันไม่ใช่ เรื่องที่คุณยกตัวอย่างมาว่ามนุษย์เคยอยู่ในป่า แต่โหยหาจะกลับนี่ยิ่งไกลไปแล้วมนุษย์ได้วิวัฒนาการมาไกลมาเป็น 5000 ปีแล้วอย่าเปรียบอะไรไม่ค่อยจะ...เท่าไหร่ แต่สัตว์ป่าเช่นกระรอกเค้ายังมีความเป็นสัตว์ป่า เราเองไปเอาเค้ามาและจงใจให้เค้าเป็นสัตว์เลี้ยงเอง คุณอย่าเปรียบอะไรที่ไม่ค่อยประเทืองปัญญาสิเช่นไฟดับ ครึ่งวันก็ทนไม่ได้แล้วเราวิวัฒนาการมาถึงจุดนี้เรามาไกลและฉลาดกว่ากระรอกแล้ว แต่กระรอกมันยังอยู่ในป่าเหมือนเดิมเค้าไม่ได้วัฒนาการมาถึงขั้นมนุษย์ ทำเครื่องบิน ทำเรือดำน้ำได้ เออเอากระรอกเปรียบกับวิวัฒนาการของคนคิดได้ไง
แล้วถ้าปล่อยผลเสียเป็นยังไงแล้วผลดีทำไมไม่คิด กับเอาเค้าใส่กรงหรือผูกเชือกโดยส่วนใหญ่ที่เห็น ไม่มีใครอยากถูกพันธนาการ คุณกล้าพูดมั่ยว่าพวกเลี้ยงกระรอกส่วนใหญ่ทุกวันนี้เลี้ยงแบบใส่กรงและผูกเชือกที่คอก็เยอะ กล้าฟันธงมั่ยว่าไม่มี ที่เห็นเป็นแบบนั้นหมด ถ้าเลี้ยงดีไม่ว่า อย่าได้ยกตัวอย่างมาเลย เพราะยังไงเค้าก็คือสัตว์ป่าอยู่ดี อย่าพยายามส่งเสริมความเป็นมนุษย์คลุกคลีให้เค้าเลยสัญชาตญานสัตว์พวกนี้เค้ารู้ตัวดีว่าต้องทำอะไรแบบไหนเมื่อถูกปล่อยออกไปไม่มีใครอยากถูกกักขังหรอก
กรณีนกนางแอ่นนั้น ที่มีการสร้างรังในตึกเพราะมนุษย์สร้างและต้องการน้ำลาย และอีกอย่าง ที่อยู่ตามธรรมชาติเค้าถูกทำลายและคลุกคลามมากขึ้นและสัตว์สามารถปรับสภาพมาใช้ชีวิตในเมืองได้แต่ก็คงยังไม่ใช่ บ้าน เค้าอยู่ดี ไม่ต้องเปรียบเทียบ นกนางแอ่นถูกเลี้ยงปล่อยแต่ถ้าบอกได้ไหมว่ากระรรอกเลี้ยงปล่อยได้ เพราะสัตว์ฟันแทะกัดไปทั่ว เราเลยต้องมี กรง และ เชือกไว้ผูกเหมือนที่ขายในสวนจตุจักรเกลือนกราดขณะนี้ไงแถมตัดฟันออกอีก
คุณอย่ามากล่าวอ้างว่าคิดแบบคุณแล้วปล่อยคุณนี่โง่เนอะวกไปอ่านข้างบนไม่ใช่มีใครสักจะปล่อยๆกระรอกเค้าศึกษามาดีแล้วไม่ใช่ปล่อยง่ายๆ ถ้าไม่ได้อ่านหัวข้อผ่านมาอย่าพิมพ์อะรที่ไม่ประเทืองสติออกมาอีก ใครสักแต่จะปล่อย ก็แน่ไม่ใช่ใช้เชือกผูกสัตว์ขังกรงนี่
คุณอย่ากล่าวอ้างว่าคนที่เก็บกระรอกมาซื้อปล่อยเพราะไม่มีความรับผิดชอบ คุณท่าจะไม่เข้าใจที่เค้าปล่อยเพราะอะไรเพื่อะไรน่าจะทำความเข้าใจตรงนี้ได้แล้ว การคืนกระรอกสู่ธรรมชาติที่มีการศึกษามาดีแล้วตัวคุณจะเลี้ยงก็เลี้ยงสิไม่มีใครว่า แต่ยังมีกลุ่มคนที่เห็นความสำคัญตรงนี้ไม่ได้เห็นแก่ตัวเอง ถ้าอย่างนั้นสัตว์ไหนจับได้ก็ไม่ต้องปล่อยคืนสู่ป่า ไม่ต้องมีการขยายพันธุ์เองตามธรรมชาติของเค้า คุณเข้าใจอะไรผิดไปไหม ว่าคนที่ปล่อยเค้าต้องการสัตว์อิสระและอยู่แบบธรรมชาติแบบเสถียรภาพ อย่างนั้นถามกลับทำไมกระรอกที่โดนปล่อย เค้าอยู่ได้สบายๆ ในสวนรถไฟ สวนสาธารณะจตุจักร ทำไมอยู่ได้และเป็นเสรีภาพด้วย เพราะสัตว์พวกนี้ปรับตัวเองได้เร็ว

ไม่มีใครตัดสินว่าใครจะต้องทำตามแบบใคร ก็บอกอยู่เสมอว่าคุณจะเลี้ยงก็เลี้ยงไปสิ แต่ยังมีกลุ่มคนอีกไม่น้อยที่คิดต่างจากคุณที่เค้าก็ซื้อกระรอกมาปล่อยและมีการศึกษาที่มาที่ไปอย่างดี ไม่ใช่ สักแต่ปล่อย เหมือนที่คุณกล่าวหา หรือกล่าวอ้าง

คุณอย่าลืมว่ากระรรอกต่อให้รักเราแค่ไหนหากหยุดเล่นหยุดหยอกไม่ได้กลิ่นเราสัญชาตญานสัตว์ป่าก็ออกมาเหมือนเดิม เค้าจะจากเราได้ กระรอกไม่ได้ฉลาดเหมือนสุนัข ที่จะจำเราได้ แค่หยุดเล่น 3 เดือนเค้าก็เริ่มๆห่างไปแล้ว และนี่คือการฝึกให้เค้าอยู่เองได้

คุณอย่าพูดเอาแต่ได้น้อยนักที่กระรอกป่าแท้ๆจะทิ้งบ้านเค้ามาอยู่กับมนุษย์ที่จับเค้าใส่กรงได้ สัตว์ไม่มีทางเดินมาหาก่อนหากเป็นสัตว์ป่าแท้ จะมีความเป็นสัตว์ป่าอยู่แล้วไม่มีหรอกกระรอกป่าจะวิ่งมาหาคนมาอยู่ในกรง น้อยที่เค้าจะยอมรับความเป็นมนุษย์จากคุณ คุณอย่าพยายามบอกเลยว่าเค้าจะมาได้พวกนี้เห็นคนก็วิ่งหนีเข้าป่าแล้ว

สวนกรณีคนที่สองที่บอกว่ามีหมาตัวหนึ่ง สบายดีมีที่พัก ปลอยภัย กับอีกตัวอิสระแต่ไม่ปลอยภัย ก็ต้องย้อนบอกว่าสุนัขคือสัตว์บ้านไปแล้ว ต่างกับกระรรอก คุณหลงประเด็นมั่ย สุนัขบ้านจะอยู่กับมนุษย์ไม่อยู่กับมนุษย์ก็ได้หมด ไม่มีปัญญา เพราะเค้าปรับตัวเองมาเป็นสัตว์บ้านไปแล้วและมีความไกล้ชิดมนุษย์มีความฉลาด เชื่องได้แม้แต่เอามาเลี้ยงตอนโตก็เชื่องต่างจากกระรอกที่เป็นสัตว์ป่าเค้าไม่สามารถ เอามาเลี้ยงเมื่อตอนโตได้เพราะดุกัดเพราะเค้าคือสัตว์ป่าสัญชาตญานเค้าฟ้องตรงนี้ ต้องเข้าใจใหม่ตรงนี้ ถึงมาเลี้ยงตอนเล็กได้โตขึ้นเค้าก็จะคงความเป็นสัตว์ป่าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงแรกๆไม่กัด 5 เดือนขึ้นไปกัดและดุขึ้นกระรอกตัวผู้จะดุหวงถิ่นมากจะไล่กัดคนนี่หล่ะไม่เข้าใจพฤติกรรมเค้าก่อนนำมาเลี้ยง และสุนัขบ้านที่เห็นก็ไม่ได้เลี้ยงในป่า จึงแตกต่างแน่นอน
กระรอกปรับตัวได้เร็วมาก จากที่ปล่อยมาแล้ว ตรงนี้ไม่ต้องกังวล เค้าสามารถที่จะเลือกใช้ชีวิตได้เราให้โลกใหม่ให้โลกกว้างแก่เค้าก็บอกแล้วไงถ้าคุณอยากจะเลี้ยงก็เลี้ยงไป แต่มีกลุ่มคนที่เลือกจะปล่อยเพื่อให้เค้าสู่ธรรมชาติก็มีเยอะ กระรอกต่างจากสุนัขจรจัดที่คุณกล่าวมา สุนัขไม่ได้อยู่ตามป่า แต่กระรอกนั้นบ้านเค้าคือป่า เค้าคือสัตว์ป่า สัญชาตญานกระรอกตื่นตัวอยู่แล้ว อยู่กับมนุษย์ก็ตื่นตัว ยิ่งกระรอกปล่อยเค้าวิ่งหนีมนุษย์นั้นคือสิ่งดีคุณรู้ไว้เพราะเค้าไม่ได้สำออยแล้ว สามารถที่จะเริ่มปรับตัวได้แล้ว การที่สัตว์เริ่มไม่ชินกับคนเริ่มดีมาก แต่คุณอย่าเอาหมาบ้านมาเปรียบกับกระรอกมันมีความต่างกัน สัตว์บ้าน กับ สัตว์ป่า เปรียบเทียบกันไม่ได้

ไม่มีใครไม่รักกระรอกหรอกแต่ความรักต่างกันการเลือกที่จะปล่อยเค้าสู่อิสระภาพ ตามวิธีทางที่ทำมาแล้ว และก็จะทำครั้งต่อๆไป เพราะเค้าคือสัตว์ป่าไม่ใช่สัตว์บ้าน คุณกำลังเข้าใจอะไรผิดมั่ยที่บอกว่าให้ย้ายไปเว็บอนุรักษณ์สัตว์ป่า ไปหมดเพราะรักสัตว์และต้องการให้อิสระภาพแก่เค้า  ก็ปล่อย 10 ตัวแล้วนี่ไง เค้าอยู่สบายมากไม่มีปัญหา คุณรู้มั่ยทุกครั้งที่มองกระรอกที่ตัวเองปล่อยปืนป่ายบนกิ่งไม้สูงมันมีความสุขมากที่ได้เห็นในสิ่งทีปราถนาจะทำได้ทำให้อีกกระรอกหลายชีวิตมีความสุขในโลกกว้าง และโครงการปล่อยกระรอกคืนสู่ธรรมชาติจะมีเรื่อยๆ เพราะนั้นคือความมุ่งมั่นที่จะให้ความเป็นอิสระกับสัตว์โลกน้อยๆเหล่านี้