ก่อนเดินทาง(พรุ่งนี้) ไปยังดินแดนอันแสนไกล ต้องห่างลูกๆ เป็นระยะเวลาเดือนเศษ คิดแล้วก็อดห่วงไม่ได้ แม้ว่าจะมีคนดูแลแทนให้อย่างดี แต่เอาเถอะก่อนไป ขอทำบุญด้วยการแชร์ความรู้ด้านสมุนไพรที่เคยเรียนมาซึ่งยังคงหลงเหลืออยู่บ้าง(ปริญญาตรีด้านชีววิทยา, ปริญญาโทด้านพฤกษศาสตร์ แต่ำงานไม่ตรงสายครับ 555มาทำงานสายการบิน) ให้ผู้ที่สนใจ ลองนำไปใช้รักษาอาการป่วยต่างๆของน้องๆดูครับ ประหยัดเงิน เวลา และผลข้างเคียงน้อยมากเพราะจริงๆแล้ว สมุนไพรที่จะนำมาแนะนำนี้นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นอาหาร และของใช้ในครัวที่หาได้ง่ายมากซะส่วนใหญ่
แม้ว่าข้าพเจ้า จะเป็นมือใหม่ในการเลี้ยงกระรอก แต่ก็ได้เผชิญหน้ากับโรคยอดฮิต ทั้งหวัดและท้องเสียเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี เพราะสมุนไพร โดยที่ลูกๆทุกตัวแข็งแรงมากครับตอนนี้ "ย้ำว่า ผมใช้สมุนไพรรักษาอาการป่วยของลูกๆทั้งหมดครับ" หวัดหายได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5วัน สำหรับกระรอกน้อย อายุ 2 เดือน และ ท้องเสียหายได้ภายใน 1-2 วันครับและนอกจากนี้ บ้านเลี้ยงสัตว์เยอะและหลายชนิดเช่นกันครับ มันใช้ได้ผลดีกับชนิดอื่นๆมาแล้ว แม้แต่กระต่ายหรือแฮมสเตอร์ที่บ้านก็รักษาด้วยสมุนไพรครับ ผมจึงลองในกระรอกบ้างแล้วก็ไม่ผิดหวังครับ
ขอให้ผลบุญนี้ช่วยส่งผลให้ลูกๆทั้งสี่ตัวของข้าพเจ้า แคล้วคลาดปลอดภัยจากโรคต่างๆ ในช่วงี่ข้าพเจ้าไม่อยู่ด้วยเถิด สาธุ
เอาละพูดเยอะเกินมาเริ่มเลยดีกว่า
เบื้องต้นจากความน่าจะเป็นตามสรีระของกระรอกเมื่อเทียบกับคน ควรจะเป็น 1ต่อ100 โดยน้ำหนักตัว(ถ้าผิดต้องขออภัยในส่วนนี้ด้วย แต่เวลาให้อาหารหรือยาผมจะคำนวณโดยยึดค่านี้เสมอ)
ในการรักษาโดยใช้สมุนไพรนั้น ถ้าเอาแบบรวบรัดตัดตอนจริงๆ ขอให้ยึดหลักตัวยา 9 รสตามตำราในหมวดสรรพคุณเภสัช รสตัวยา 9 รส เป็นรสของตัวยาสมุนไพรแต่ละชนิดที่นิยมใช้เป็นหลักในประเทศไทย มีดังนี้
1. รสฝาด ชอบสมาน
2. รสหวาน ซึมซาบไปตามเนื้อ
3. รสเมาเบื่อ แก้พิษ
4. รสขม แก้ทางดีและโลหิต
5. รสเผ็ดร้อน แก้ลม
6. รสมัน แก้เส้นเอ็น
7. รสหอมเย็น บำรุงหัวใจ
8. รสเค็ม ซึมซาบไปตามผิวหนัง
9. รสเปรี้ยว กัดเสมหะ
ในตำราเวชศึกษา จัดรสเพิ่มอีก ๑ รส คือ รสจืด ใช้สำหรับ แก้ในทางเตโช ขับปัสสาวะ ดับพิษร้อน แก้ไข้
เรามาเริ่มทีละรสอย่างละเอียดกันครับ แต่ผมจะขอยกเฉพาะ รส ที่สัมพันธุ์กับโรคและจำเป็นต้องใช้ในน้องกระรอกนะครับ
รสฝาด
สำหรับสมานทั้งภายนอกและภายในช่วยรักษาอาการ บิด แก้ท้องร่วง สมานแผล ชะล้างบาดแผล สมุนไพรที่นำมาใช้ได้และเห็นผลได้แก่
ชาดำ
ผมใช้ใบชาแห้ง 2 ช้อนชา(พูนๆ)ชงกับน้ำร้อน 1แก้วแล้วทิ้งไว้ให้พออุ่นๆ หลังจากนั้น จะให้น้องด้วยการป้อน โดยใช้หลอดหยดหรือดรอปเปอร์ จำนวน 2 หลอด (ไม่ใช่สองหยด)เช้าเย็น
นอกจากชาดำ พอเห็นง่ายๆและใช้ได้ก็จะมี ทับทิม(เปลือก) ฝรั่ง(ใบแก่) มังคุด(เปลือก) กล้วยดิบ ลูกจันน์ ฟ้าทะลายโจร
ปล. ผมให้ไปแค่ตอนเช้าลูกผมก็กลับมาอึแข็งแล้วครับ แต่เพื่อความชัวร์เลยให้เย็นอีกรอบ งันต่อมาก็หายขาด
รสหวาน
ทำเนื้อให้ชุ่มชื่น บำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย เจริญอาหาร บำรุงหัวใจ แก้ไอ แก้เสมหะแห้ง แก้หอบ แสลงกับโรค เสมหะ เบาหวาน น้ำเหลืองเสีย ฟันผุ อาเจียน ที่ใช้ได้ดีคือ น้ำผึ้ง
รสขม
สำหรับบำรุงโลหิต แก้ไข้ ดับพิษโลหิต เจริญอาหาร แก้ร้อนในกระหายน้ำ เช่น เถาบอระเพ็ด เถามะระ เปลือกต้นสะเดา ใบและลูกมะแว้งเครือ ลูกประคำดีควาย ฟ้าทะลายโจร
รสเผ็ดร้อน
สำหรับแก้ลม จุกเสียดแน่นเฟ้อ ขับผายลม ขับโลหิตระดู ขับเหงื่อ ย่อยอาหาร แก้หวัดคัดจมูก เช่น กานพลู พริก หอมแดง ขิง ข่า หัวกระชาย ใบมะกรูด ตะไคร้
ตอนลูกผมเป็นหวัด ผมใช้หอมแดงล้างให้สะอาด ลอกส่วนี่มีราดำออกให้หมด ห้ามหั่น ชั้งลูกใส่ไปในกรง ในกระโจม ห้ามอบ ให้มีอากาศหายใจนะครับ แล้วเค้าจะเอง ไม่เป็นไร ตอนแหอม เค้าจะจามถี่และบ่อย อย่าตกใจนะครับ เป็นกลกางธรรมชาติ ยิ่งจามบ่อยหมายถึง ร่างกายพยายามชับเชื้อโรคออกมา สังเกตดูนะครับ น้ำมูกลูกจะเป็นแค่น้ำใสๆ ไม่เกิน 5 วันควรจะหายดีครับย้ำว่าอย่าหั่นนะครับ จะเป็นอันตรายมาก
รสเปรี้ยว
แก้เสมหะ แก้ไอ ฟอกโลหิต ระบายอุจจาระ แก้ท้องผูก แก้กระหายน้ำ แก้เลือดออกตามไรฟันเช่น มะนาว มะกรูด ส้ม ผลไม้รสเปรี้ยวั้งหลาย นอกจากนี้ผลไม้รสเปรี้ยวส่วนใหญ่จะมีวิตามินซีสูงซึ่งช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคหวัดได้ครับ
ไง้ก็ลองดูได้นะครับไม่น่าจะเสียหายอะไรถ้าไม่ไหวจริงๆค่อยพาไปหาหมอแผนปัจจุบัน
จำไว้อย่างนะครับการรักษาด้วยสมุนไพรอาจจะใช้เวลานิดหน่อย แต่ผลระยะยาวค่อนข้างดีและผลข้างเคียงน้อยกว่า
ฝันดีครับ