ฝากลบกระทู้นี้หน่อยนะคะพี่แนน :) ต้องขอโทษที่รบกวนหลายรอบเลย [Engine by iGetWeb.com]

ฝากลบกระทู้นี้หน่อยนะคะพี่แนน :) ต้องขอโทษที่รบกวนหลายรอบเลย

(อ่าน 1995/ ตอบ 1)

khwunna (Member)

NU B Level 1

หัวข้อ :ฝากลบกระทู้นี้หน่อยนะคะพี่แนน :) ต้องขอโทษที่รบกวนหลายรอบเลย 31/01/2011 , 21:35 Quote

   ก่อนอื่นนะคะ  อยากจะเตือนว่าไม่ควรซื้อกระรอกที่ยังไม่ลืมตาหรืออายุไม่ถึง 2 เดือนค่ะ  เป็นอันตรายมากต่อกระรอกค่ะ แล้วยิ่งถ้าซื้อมาจากเจเจ  ยิ่งเสี่ยงต่อการตายสูงมากค่ะ(ถ้าซื้อจากที่นี่ ควรพาไปหาสัตวแพทย์ตรวจ สุขภาพน้องก่อนค่ะ) เพราะพ่อค้าแม่ค้าพวกนี้ส่วนมากเห็นแก่ได้ค่ะ  ด้วยความไม่รู้ของเราที่เห็น กระรอกน้อยด้วยความเอ็นดู  แต่กลับกลายเป็นการส่งเสริมเค้า เราเองก็เป็นเหยื่อหนึ่งรายที่ไม่รู้  และไม่ได้หาข้อมูลให้ดีก่อนที่จะซื้อ มาเลี้ยง  นี่ก็เป็นสัตว์เลี้ยงตัวแรกของเราด้วยเหมือนกัน ปายิ้มไม่แข็งแรงอย่างมาก  ท้องเสียจากการติดเชื้อจากที่ร้าน ท้องเสียประมาน 2 อาทิตย์ำได้  หาหมอมาสองสามที่ กว่าจะหาย ก็ไปหายดีได้เพราะรพ.สัตว์เล็กจุฬา  แต่น้องโดนฉีดยาและกินยาตลอด ตอนนี้เลิกกินไปแล้ว แข็งแรงขึ้นเยอะ  กลับมาเรื่องเลี้ยงกระรอกดีกว่าค่ะ

เรื่องอาหาร
สำหรับกระรอกเด็กน้อยที่ยังไม่ลืมตา  ก็คงจะต้องเป็นนมเหมือนกับคนเนี่ยแหละ ค่ะ  แต่นมที่ว่านี้ต้องไม่ใช่นมวัวนะคะ กระรอกแพ้นมวัวค่ะ  เพราะกระเพาะของกระรอกไม่สามารถย่อย"แลคโตส" ที่เป็นน้ำตาลโมเลกุลนึง เอาเป็นว่าน้องจะท้องเสีย และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ค่ะ
แล้วนมอะไรที่กินได้บ้างล่ะคะ ก็ได้แก่
1.นมทดแทนสำหรับลูกสัตว์แรกเกิด หรือ สัตว์กำพร้าอื่นๆ ก็มี
- นม KMR นมแมวค่ะ คุณหมอบอกว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดค่ะ กลิ่นจะไม่เหม็น

- นม Esbilac นมสุนัขค่ะ อันนี้กลิ่นจะแรงหน่อย อาจจะกินยากกว่านมแมวค่ะ แต่กินได้แน่นอน

มีทั้งแบบสำเร็จรูปและแบบผงค่ะ ราคาอาจจะสูงหน่อย และค่อนข้างหายาก มีขายที่ pet shop คลินิคสัตว์ และรพ.สัตว์
2.นมแพะค่ะ
- แบบสำเร็จรูป มีขายที่เซเว่น tops เทสโก้ ซื้อมาแล้วควรชิมก่อนนะ เพราะเคยซื้อที่เทสโก้มา ตอนแรกไม่ได้ชิมก่อน เพราะน้องหิวมาก เลยรีบให้กินแต่น้องไม่ยอมกิน เลยมาชิมดู ปรากฏว่าบูดแล้ว ซื้อที่ tops น่าจะดีกว่าค่ะ รสช็อกโกแลตกินไม่ได้นะคะ

- แล้วก็มีแบบผง

3.นมผงสำหรับทารกที่แพ้นมวัวหรือย่อยแลคโตสไม่ได้ แต่เรื่องรสชาติก็ไม่ทราบเหมือนกันนะคะ

4.นมถั่วเหลือง หาซื้อได้ทั่วไป แต่เอาไว้เป็นกรณีฉุกเฉินดีกว่าค่ะ

อ้าว!!แล้วซีรีแลคล่ะกินไม่ได้หรอ ก็ตอบว่าได้ค่ะ  แต่ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพซักเท่าไร เพราะมีส่วนผสมของนมวัว  แถมยังมีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับกระรอกไม่ครบ และไม่ดีเท่ากับนมค่ะ  บางตัวอาจท้องเสียถึงขั้นรุนแรงได้ค่ะ อย่างเช่นปายิ้มเป็นต้น
ส่วนคนไหนที่ให้กินซีรีแลคมาก่อนก็ค่อยผสมกับนมให้น้อยลงไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งเปลี่ยนทันที เพราะอาจทำให้น้องท้องเสียได้ค่ะ
เพื่อเพิ่มรสชาติของนมอาจใช้ผลไม้ผสมกับนมได้เล็กน้อยค่ะ  ต้องให้บดอย่าง ละเอียด(ต้องละเอียดจริงๆนะคะ) เช่น  กล้วยน้ำว้าสุก(กล้วยน้ำว้าจะเหนียวไม่ต้องผสมเยอะนะคะ เดี๋ยวจะติดคอน้อง  แล้วก็ห้ามกินกล้วยหอมด้วยนะคะ) มะละกอสุก มะม่วงสุก เป็นต้นค่ะ  แต่ห้ามเป็นตระกูลแตงทั้งหลายกับสาลี่นะคะ อันตรายต่อน้องเค้า
หรืออาจเสริมด้วย Heinz อาหารเสริมของเด็กก็ได้นะคะ กินได้ทุกรสเลยค่ะ ตามความชอบของคุณพ่อคุณแม่เลยค่ะ
ให้กินทุกๆ 4-5 ชม.ค่ะ ครั้งละประมาน 2-3 ไซริงค์/ดรอปเปอร์  ถ้ากินน้อยก็กระชับเวลามาเป็น 2-3 ชม.ครั้งค่ะ  แต่ปริมาณในการกินก็ขึ้นอยู่กับขนาดกระรอกแต่ละตัว สามารถเพิ่มขึ้นได้  และให้จับท้องเค้าดูว่าตึงเกินไปหรือเปล่า ถ้าตึงก็ให้หยุดกินนะคะ  อย่าตามใจปากน้องเค้าละ พุงจะแตกตายก่อน

น้ำ
  ยัง ไงน้ำก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดค่ะ  สำหรับกระรอกแล้วจะกิน น้ำน้อยค่ะ เพราะจะได้น้ำจากผลไม้ซะส่วนใหญ่  ให้กินก็วันละประมาน 1 ไซริงค์/ดรอปเปอร์ ถ้าน้องกินไม่หมดก็ไม่เปนไรนะคะ  หรืออาจจะเป็นน้ำผลไม้ก็ได้ค่ะ น้องเค้าจะกินเยอะหน่อย  โดยเฉพาะน้ำมะพร้าวของโปรดของกระรอกเลยละคะ หรือถ้าโตขึ้นมาหน่อยก็ฝึกให้เค้ากินจากขวดน้ำสูญญากาศ จะดีกว่าใส่ถ้วยไว้ค่ะ ราคาไม่แพงมีตั้งแต่ 25 บาทขึ้นไป

การป้อนอาหาร
   กระรอกเด็กปากจะเล็กมาก อยากให้ใช้ไซริงค์ขนาด1cc ป้อน  เพราะง่ายต่อการควบคุมค่ะ ใช้มือค่อบๆกดไซริงค์ลงให้เป็นหยดๆที่ปลาย  ให้เด็กๆเลีย ห้ามให้เค้าดูดหลอดเด็ดขาดนะคะ จะทำให้นมพุ่งขึ้นจมูกเลย
   ถ้าไม่มีก็ใช้ดรอปเปอร์แทนได้ แต่ควรระวังให้มาก ห้ามบีบแรงจะทำให้สำลัก  บีบให้นมหยดลงมาที่ปลายเหมือนกัน ให้เค้าเลียเอง ห้ามให้เค้าดูดเด็ดขาดนะคะ  ขึ้นจมูก ติดเชื้อได้ และนมที่ค้างในโพรงจมูก จะทำให้ปอดชื้น เป็นปอดบวม  ตายได้ บางคนใช้ไส้ไก่ล้อรถจักรยาน มาครอบอีกทีได้ค่ะ

การขับถ่าย
เป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ หลังจากกินอาหารเรียบร้อยแล้ว  ซักแปบนึงก็ค่อยให้เค้าขับถ่าย ตอนเล็กๆเค้าจะขับถ่ายเองไม่เป็น  เราต้องช่วยกระตุ้นให้เค้าโดยการเอาสำลี ชุบน้ำอุ่นๆ บีบน้ำออกเล็กน้อย  เช็ดที่ตา(ไม่ต้องเช็ดเยอะนะคะ เพียงกระตุ้นเล็กน้อยให้น้องเค้าลืมตาค่ะ) ก้นและอวัยวะเพศของน้องเค้า เช็ดเบาๆนะคะ  แค่พอให้เค้าขับถ่ายออกมาก็พอ อย่าเช็ดนานเกินไปจนก้นเค้าแดงนะคะ  เค้าจะเจ็บไม่ยอมขับถ่ายเลยละคะ ต่อไปเค้าจะไม่ยอมให้เช็ดอีกค่ะ  ถ้าขับถ่ายเรียบร้อยแล้ว ก็ใช้ผ้าหรือทิชชู่เช็ดให้แห้งก่อนเข้านอนนะคะ

การทำความสะอาด
กระรอกเด็กที่ยังไม่ลืมตาไม่ควรอาบน้ำค่ะ 2เดือนขึ้นไปถึงจะอาบได้(ในกรณีถ้าเค้ามอมแมมมากเกินไปจึงอาบ แต่ไม่จำเป็นต้องอาบทุกวันหรืออาบบ่อย) แต่ถ้าต้องการทำความสะอาดให้ใช้ผ้า/ทิชชู่/ผ้าเช็ดขนสัตว์ เช็ดทำความสะอาดแทน เช็ดเบาๆนะคะ
วิธีอาบน้ำก็ใช้น้ำอุ่นๆ เริ่มจากใช้น้ำค่อยๆลูบที่หาง และตัวก่อน เพราะเค้าจะกลัวน้ำและจะดิ้นไม่ยอม ให้เค้ารู้สึกว่าปรับตัวได้แล้ว จึงให้ลงแช่น้ำ หรือถ้ามอมแมมมากๆก็ใช้แชมพูสัตว์ หรือแชมพูทารกมาถูนิดหน่อยได้ค่ะ แต่อย่าเยอะนะคะ เด๋วจะล้างออกไม่หมด(ถ้าไม่หมดอาจเป็นโรคผิวหนัง คัน หรือขนร่วงได้ค่ะ) ล้างด้วยน้ำอุ่นๆให้สะอาด เช็ดตัว และใช้ไดร์เป่าขนให้แห้ง ขณะที่เป่าแห้งอยู่ก็ใช้มือถูเบาๆเพื่อไม่ให้ขนติดเป็นก้อนค่ะ อย่าให้ไดร์ร้อนหรือเย็นจนเกินไปนะคะ ไม่ต้องเอาไดร์จี้น้องนะคะ เค้าจะไม่ชอบ ระยะห่างประมาน 1 ฟุตหรือแล้วแต่ความเหมาะสมของไดร์ค่ะ

ที่นอน
มีหลายแบบแล้วแต่ตามชอบ และควรพยายามเปลี่ยนผ้าในที่นอนบ่อยๆ  คือผ้าใหม่(ต้องซักให้สะอาดนะคะ) ทิชชู่ใหม่ทุกวัน  ตัวน้องเค้าได้จะไม่เหม็นค่ะ(กลิ่นน้องเค้าจะเป็นกลิ่น เดียวกับผ้าที่เค้า นอนเลยค่ะ) เรื่องผ้าเป็นผ้าอะไรก้ได้เค้าที่ทำให้เค้าอบอุ่น  แต่ที่ดีที่สุดคือ"ผ้า สำลี" อุ่นมาก  มีขายในห้างแผนกเด็กอ่อน ซักให้เรียบร้อยก่อนนะคะ ใส่ไปในที่นอนเยอะๆ  ให้เอามือแหย่ไปในผ้าว่าอุ่นหรือยัง ถ้ายังก็ใส่เพิ่มได้ค่ะ  เพราะเค้าหนาวง่ายมากๆ

การกกไฟ
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนมองข้าม ว่าไม่ต้องมีก็ได้จนอาจจะละเลยไป แต่อยากให้รู้ว่าสำคัญมากที่สุดค่ะ หลอดไฟ สำหรับ กกสัตว์ประมาน 60 - 100 วัตต์ หาซื้อได้ทั่วไป ที่เซเว่นก็มีขายค่ะ ต่อหลอดไฟเหนือตะกร้านอนหรือที่นอน เอามืออังดูให้อุ่นพอดี อย่าให้ร้อนจนเกินไป ไฟมันจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ เราต้องคอยขยับหลอดให้สูงขึ้น โดยสังเกตอาการของเด็กๆควบคู่ไปด้วยค่ะ เอาผ้าห่อเค้าให้เค้านอนหลับแล้วกกไฟให้ ถ้าหลอดร้อนก็พักหลอดค่อยเปิดใหม่

กรง
อาจยังไม่จำเป็นสำหรับกระรอกเด็กเท่าไร แต่ยังไงกระรอกจำเป็นจะต้องมีที่อยู่เฉพาะ เนื่องจากกระรอกไม่ใช่สัตว์เลี้ยงที่จะสามารถ ปล่อยให้กิน หรือให้นอนตรงไหนก็ได้ กรงของกระรอกขอแค่สูงพอประมาณ แต่เน้นไปที่ความกว้างจะดีกว่า ซี่กรงจะต้องไม่กว้างกว่า 1.3 cm ตัวกรงจะต้องทำจากวัสดุที่ทนกับการกัดแทะ เพราะฉะนั้นหากตัวกรงทำด้วยไม้หรือพลาสติกก็ให้ตัดทิ้งไปได้เลยค่ะ

โดยส่วนตัวคิดว่าการซื้อกรงขนาดใหญ่ไปเลยในครั้งเดียวนั้นค่อนข้างคุ้ม ค่า เพราะเป็นการเสียเงินแบบทีเดียวจบไม่ต้องมาซื้อแล้วซื้ออีก เพราะกระรอก เป็นสัตว์โตเร็ว แป๊ปๆก็ตัวเต็มกรงแล้วค่ะ อีกอย่างคือ ถ้ากระรอกมีพื้นที่ให้วิ่งเล่นภายในกรง ก็จะช่วยให้เค้ามีสุขภาพจิตดีไปด้วย

น้องไม่สบาย
หากมีอาการ ท้องอืด ไม่ถ่าย ท้องบวม หรือ ท้องเสีย พาไปหาหมอด่วน  อย่ารอช้า ตังมีไม่มีค่อยว่ากัน พาไปให้ถึงมือหมอก่อน  อาจปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ตามนี่  http://www.nubpetshop.com/index.php?mo=3&;art=406274  หรือ หาเพิ่มเติมโดยการ search ที่ google ได้ค่ะ อีกอย่างกระรอกมักจะไม่ค่อยแสดงอาการป่วย เพราะเป็นสัตว์เล็ก  จึงต้องทำตัวให้ดูว่าแข็งแรง เพื่อป้องกันสัตว์ สังเกตุดูเค้าดีดีนะคะ

การดูแล
คิดซะว่าเค้าเป็นลูกของเราจริงๆ ถ้าเป็นลูกของเราเราจะดูแลเค้าให้ดีขนาดไหน เค้าไม่ใช่ของเล่น ที่ซื้อมาแปบๆก็ทิ้ง แค่เค้ากำพร้าพ่อแม่ก็ทำร้ายจิตใจเค้ามากพอแล้ว ทำให้เค้าไว้ใจและคิดว่าเราเป็นผู้ให้กำเนิดเค้าจริงๆ  ดูแลเค้าตลอดเวลาได้ ยิ่งดี ถ้าเป็นไปได้อย่าทิ้งเค้าไว้ในห้องคนเดียว เพราะอันตรายมากค่ะ อีกอย่างต้องกินอาหารบ่่อย ถ้าเราต้องเรียนหรือทำงานก็อยากให้ฝากคนที่บ้านดูแล หรือไม่ก็เอาไปด้วยคะ แต่ต้องระวังให้ดีนะคะ
เราเอามาเลี้ยงแล้วจะปล่อยกลับให้ธรรมชาติไม่ได้เป็นอันขาด  เพราะกระรอก ที่อยู่ตามธรรมชาติ  จะไม่ยอมรับกลิ่นมนุษย์และกระรอกที่เราเลี้ยง อาจทำให้โดนกัดตายได้  หรือหากินเองตามธรรมชาติไม่ได้ และควรศึกษาเรื่องกระรอกเพิ่มเติมบ่อยๆ  อยากให้ดูแลเค้าให้ดีที่สุด  หนึีง ชีวิตที่ขึ้นอยู่กับเราว่าจะให้เค้าเป็นยังไงต่อไป  ตอนเด็กกับตอนโตนั้นไม่ เหมือนกันเลยซักนิด คิดให้ดีก่อนซื้อ  ซื้อแล้วก็ควรเอาใจใส่เค้าให้มาก  เหมือนกับที่เราอยาก ให้พ่อแม่ดูแลเราดีดีนั่นแหละค่ะ ฝากด้วยนะคะ
อันนี้เป็นเพียงประสบการณ์และความรู้ของตนเองที่ศึกษามาจากหมอและเว็บ ต่างๆ  สามารถปรับเปลี่ยนและเพิ่มเติมได้  มีอะไรอยากรู้ก็สอบถามทุกๆคนใน บล็อกนี้ได้ค่ะ

    และขอย้ำให้ฟังอีกครั้งว่าไม่ได้ส่งเสริมนะคะ คนไม่รู้ก็ไม่ผิด  ซื้อมาเพราะความรักความเอ็นดู รู้แล้วก็อย่าทำอีก  และเพื่อความอยู่รอดของกระรอกน้อยเหล่านี้  จึงจำเป็น ต้องเขียนกระทู้นี้ขึ้นมา อยากฝากให้บอกต่อๆกันในครอบครัว เพื่อน  พี่น้อง  และทุกคนที่เรารู้จักหรือไม่รู้จักก็ตามว่าอย่าสนับสนุนคน ที่เอาชีวิตน้อยๆ มาขายเพื่อความสบายของตนเอง ขอโทษด้วยนะคะ

เพิ่มเติมหน่อยค่ะ
อันนี้จากอาการของน้องปายิ้มนะคะ คือเวลากินอาหารจะอ้าปากค้างและเกร็งตัว ตอนอายุเดือนกว่าๆค่ะ
คุณหมอบอกมาว่า
- เกิดจากการสำลักอาหารแล้วลงปอด จะมีการหายใจผิดปกติ ทำให้เวลากินอาหารหายใจไม่ทัน จึงอ้าปากค้างและเกร็งตัว น้องปายิ้มเป็นโรคปอดอักเสบค่ะ
- อาจเกิดจากวิธีการป้อนที่ปล่อยให้เค้าดูดเอง จนอาหารเข้าคอและสำลัก ส่วนใหญ่จะเป็นมาจากการใช้ดรอปเปอร์ คุณหมออยากให้ใช้ไซริงค์มากกว่าค่ะ เพราะเราสามารถควบคุมเองได้ แถมยังทำความสะอาดง่ายกว่า และไม่ควรรีบป้อนจนเร็วเกินไปนะคะ

และมีวิธีที่ตัวเองเพิ่งรู้ก็คือ อาหารที่ป้อนมีความข้นมากเกินไป โดยปกติแล้วจะบดกล้วยให้อะเอียดผสมกับนมแมว แต่เพราะเราใส่กล้วยเยอะเกินไป เพราะกล้วยมีความเหนียวมากถึงแหมจะสุกแล้วก็ตาม จึงทำให้ติดคอและหายใจไม่ทัน เลยมีอาการอ้าปากค้าง
ส่วนผลไม้ที่ให้เค้าแทะกินเล่นก็ต้องไม่แข็ง เพราะยังเด็กอยู่อาจจะเคี้ยวไม่ละเอียดและติดคอได้ค่ะ ลองเปลี่ยนมาเป็นมะละกอสุก มะม่วงสุก มะเขือเทศ หรือผลไม้ที่นิ่มๆหน่อยอะคะ อาจจะช่วยได้เยอะ

แต่ถ้าผ่านไปซักวันสองวันแล้วยังไม่หาย ควรพาไปพบสัตวแพทย์ด่วนเลยค่ะ อย่าปล่อยไว้นานน้องเค้าจะทรมานมากๆค่ะ จนไม่ยอมกินเลย

- แล้วก็มีแบบผง

khwunna (Member)

NU B Level 1

ความคิดเห็นที่ 1 31/01/2011 , 21:54 Quote

รบกวนพี่แนนลบกระทู้อันนี้อีกทีค่ะ อันเดียวนะคะ
พอดีขวัญเอามาดูกระทู้อะคะ แต่ไม่มี เลยนึกว่าพี่แนนลบไปทั้งสองอัน
รบกวนหน่อยนะคะ

เมนู

หมวดหมู่สินค้า

ประเภทสินค้า

ฝากลบกระทู้นี้หน่อยนะคะพี่แนน :) ต้องขอโทษที่รบกวนหลายรอบเลย

khwunna (Member)

khwunna (Member)

บทความ